ขับรถ Honda ลุยน้ำอย่างไรไม่ให้รถเสีย
ฤดูฝนรวมกับพายุทำให้น้ำไหลออกจากน้ำเมื่อเวลาผ่านไป จนเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ ฝนตก น้ำท่วม และรถติด ตรวจสอบสภาพน้ำท่วมแบบเรียลไทม์ คลิก คลิก วิธีขับรถลุยน้ำ ขับขี่อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงของเครื่องยนต์ honda ขัดข้องระหว่างทาง อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วไม่แนะนำให้ขับลุยน้ำ ถ้าน้ำท่วมสูงจริงก็ควรเลี่ยง
- และก่อนลงน้ำต้องตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ก่อน ระดับน้ำสูงแค่ไหน? รถยังสภาพดีอยู่ เช็คเลย คลิก!
การขับรถลุยน้ำควรหลีกเลี่ยงช่องทางน้ำท่วม 5 อย่างที่ควรตรวจเช็คหลังจากลุยน้ำท่วม ช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าสู่เครื่องยนต์โดยการเปลี่ยนเส้นทางรถเข้าเลนที่มีระดับน้ำต่ำ และวิธีขับลุยน้ำไม่ให้รถเสีย
- ปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ห้องเครื่อง
การปิดเครื่องปรับอากาศช่วยลดระดับน้ำให้กับเครื่องยนต์ได้ถึงครึ่งหนึ่ง มีโอกาสเคาะเพราะพัดลมดูดน้ำเข้าเครื่อง และระวังขยะที่ลอยไปกับน้ำ เพราะสามารถยึดติดกับมอเตอร์พัดลมได้ ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์อาจขัดข้อง
- ใช้เกียร์ต่ำเพื่อรองรับรถอย่างนุ่มนวลเพื่อป้องกันไม่ให้ดับเครื่องยนต์
ขับผ่านน้ำด้วยเกียร์ต่ำเนื่องจากเป็นสภาวะที่ดับเครื่องยนต์ได้ยากที่สุด เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ของรถยนต์ทั่วไปที่ 1,500~2,000 รอบต่อนาที จึงใช้เฉพาะเกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้น ดูดอากาศและน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์
- ลดความเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่เครื่องยนต์
คุณต้องชะลอความเร็วเมื่อขับรถบนน้ำ อุบัติเหตุมากมายจากการขับรถในน้ำที่เริ่มท่วมหรือเริ่มท่วมถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ น้ำจะท่วมผิวถนนจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า น้ำเป็นแอ่งน้ำ เป็นรอยหรือเป็นโคลน? ดังนั้น คุณต้องช้าลงเพื่อดูว่าคุณต้องการใช้เส้นทางต่อไปหรือไม่ และอีกสิ่งหนึ่งคือแรงปะทะของรถที่พุ่งเข้ามาสามารถทำให้คลื่นชนกันได้ ระดับน้ำที่สูงขึ้น น้ำจะกระเด็นเข้าไปในเครื่องยนต์มากขึ้น และระบบไฟฟ้าก็เสียหายได้พอสมควร
- รักษาระยะห่าง ป้องกันอุบัติเหตุ
การขับขี่บนน้ำลดประสิทธิภาพของผ้าเบรก วิธีนี้จะทำให้เบรกแทบไม่ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรรักษาระยะห่างระหว่างรถอย่างน้อย 2-3 ครั้ง
- กดเบรกซ้ำๆ นอกน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากผ้าเบรก
เมื่อออกจากน้ำที่จมอยู่ใต้น้ำ คุณต้องกดเบรกหรือคลัตช์เพื่อระบายน้ำออกจากระบบเบรก ป้องกันคลัตช์ลื่น
- จอดรถและอย่าดับเครื่องยนต์ทันที
และห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ทันทีเมื่อขับออกจากน้ำท่วม เนื่องจากน้ำสามารถคงอยู่ในเครื่องยนต์ ความชื้นจึงอาจเกิดขึ้นในห้องเครื่องยนต์ รวมทั้งท่อไอเสีย หากคุณดับเครื่องยนต์ทันที น้ำค้างจะก่อตัวที่ท่อและสามารถกลับเข้าไปได้
การขับรถในน้ำท่วมเช่นนี้ทำให้คุณสามารถขับกลางถนนได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เสี่ยงต่อเครื่องยนต์ขัดข้อง หากได้รับการยืนยันว่ามีบางอย่างผิดปกติกับระบบเครื่องยนต์ หลังจากขับรถในอุทกภัย คุณต้องนำรถไปที่ศูนย์บริการทันทีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยของคุณเองด้วยระบบไฟฟ้าหรือระบบเบรก และหากนำรถมาที่ united honda line service center : @unitedhonda facebook : united honda automobile หรือโทร 02-432-2222
honda คำเตือน! การตรวจสอบฝน น้ำท่วม รถติด และสภาพน้ำท่วมแบบเรียลไทม์
honda : แอปพลิเคชั่นจราจร กทม. เป็นแอปพลิเคชั่นที่รายงานสภาพการจราจรจากกล้องวงจรปิดทั่วกรุงเทพฯ แสดงผลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนการเดินทาง ใช้เลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบสภาพการจราจรอื่นๆ รวมถึงจำนวนการจราจรติดขัด ไฟไหม้ การปิดถนน และสถานที่ซ่อมถนนที่ควรหลีกเลี่ยง
- ทั้ง ios และ android สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีและใช้งานบนสมาร์ทโฟนของคุณ สล็อตเว็บตรง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
ควรทำอย่างไรดี? หากรถ honda ของท่านได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
ปัญหาที่เกิดหลังฝนตกหนัก คือ เมื่อฝนตก ฝนตกต่อเนื่องหลายวัน น้ำท่วมถนนและรถเสียหาย หรือถ้ารุนแรงพอ บ้านของคุณอาจถูกน้ำท่วมได้ และข้อปฏิบัติให้เช็คล่วงหน้าว่ารถถูกน้ำท่วมระดับไหนและต้องทำอย่างไรหากรถ honda ถูกน้ำท่วม มาดูกัน
ความเสียหายระดับ 1
จมลงไปในพื้นรถแต่ไม่ถึงที่นั่ง
ระดับน้ำท่วมถึงด้านล่างของรถแล้ว อย่างไรก็ตาม หากความสูงของเบาะนั่งไม่ถึง อุปกรณ์และชิ้นส่วนของรถอาจได้รับความเสียหายดังนี้:
ระบบเบรคทั้ง 4 ล้อและผ้าเบรค
คลัตช์ห้องเครื่อง คอมเพรสเซอร์ สายพานเครื่องปรับอากาศ และสตาร์ทเตอร์
พรมห้องโดยสาร
หลักปฏิบัติ ล้อและอุปกรณ์กันสะเทือน ปล่อยทิ้งไว้ในน้ำนานจะทำให้เกิดสนิมที่ใต้ท้องรถ ต้องตรวจสอบระบบเบรกและผ้าเบรกทั้งสี่ล้ออย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคืออย่าลืมตรวจสอบสตาร์ทเตอร์เพื่อกำหนดระดับความเสียหาย สตาร์ทเตอร์ได้รับการออกแบบให้มีความทนทาน แต่ความเสียหายจากน้ำอาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว
นอกจากนี้ หากพื้นพรมรถของคุณเปียก แสดงว่ามีน้ำซึมเข้าไปภายในรถ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ ให้นำพรมออก ซักแล้วตากแดดให้แห้ง และอย่าลืมทำความสะอาดภายนอกรถอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะใต้ท้องรถหรือตามซุ้มล้อ ทำความสะอาดสิ่งสกปรก โคลน และสิ่งสกปรกที่เกาะติดใต้ท้องรถ
ความเสียหายระดับ 2
- ระดับน้ำท่วมถึงที่นั่ง
- ระดับน้ำท่วมสูงบนเบาะนั่งอาจทำให้อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เสียหายได้ ซึ่งรวมถึง:
- ห้องเครื่อง, กล่องecu, แบตเตอรี่, พัดลมระบายความร้อน, เครื่องยนต์, น้ำมันเครื่อง, ระบบเกียร์, น้ำมันเกียร์, สายไฟต่างๆ ขั้วสายไฟ eps พวงมาลัยเพาเวอร์
- ไฟหน้า-หลัง
- ที่นั่ง
- แผงประตู สวิตซ์ แผงประตู และระบบเซ็นทรัลล็อค
- ชุดเครื่องปรับอากาศ
- ที่เก็บสัมภาระ
หลักปฏิบัติ
หากเบาะนั่งจมอยู่ใต้น้ำ ให้ถอดรถออกจากน้ำก่อน ห้ามสตาร์ทรถหรือเปิดกุญแจอย่างเคร่งครัดเมื่อยกกุญแจขึ้น เนื่องจากระดับน้ำอาจทำให้ห้องเครื่องเสียหายได้ จึงต้องถอดแบตเตอรี่ออกทันที สิ่งที่สำคัญมาก เช่น พัดลมระบายความร้อน พร้อมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ตรวจสอบการถ่ายเทความร้อนในห้องเครื่องหรือ ecu เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ควบคุมเครื่องยนต์ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือระบบเกียร์ ระบบของเหลว และระบบหล่อลื่นต่างๆ ของรถ ซึ่งจะต้องสามารถขจัดความชื้นออกจากรถได้
เพียงเท่านี้การขับรถลุยน้ำท่วมก็สามารถขับได้อย่างปลอดภัยไม่เสี่ยงเครื่องดับกลางทาง และหากพบว่ามีอาการผิดปกติของระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าหรือระบบเบรกหลังจากขับรถลุยน้ำท่วม ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวท่านเอง และหากต้องการนำรถเข้าศูนย์บริการ ที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้าLine : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ
https://unitedhonda.com/blog/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3