ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้! สวัสดิการประกันสังคมมาตรา40

ทุกวันนี้ ผู้คนในประเทศไทยและทั่วโลกต่างหันมาใช้ฟรีแลนซ์และฟรีแลนซ์เพราะพวกเขามีอิสระในการทำงาน คิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งรวมถึงการจัดการและสร้างรายได้ที่ทำให้พวกเขาทำงานได้มากกว่าพนักงานเต็มเวลาบางคน แต่เสรีภาพนั้นไม่อาจแลกกับความมั่นคงในงานหรือประกันสังคมได้ หากท่านไม่เข้าสู่ระบบ ประกันสังคม ตามมาตรา 40

ทำประกันสังคมมาตรา 40 ไปเพื่ออะไร

มาตรา 40 สวัสดิการประกันสังคมคืออะไร และบริษัทประกันภัยให้อะไร และต้องจ่ายเท่าไหร่จึงจะได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด? วันนี้มารู้กัน

เรียนรู้เกี่ยวกับมาตราประกันสังคม 40

ประกันสังคมมาตรา 40 เป็นประกันสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบ ประกอบอาชีพอิสระ, ฟรีแลนซ์, ชาวนา, พ่อค้า, พ่อค้า, ฟรีแลนซ์

  • คุณสมบัติของผู้เอาประกันภัยตามมาตรา 40
  • ผู้ที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 65
  • ประกอบอาชีพอิสระหรือพาร์ทไทม์
  • หากคุณไม่ได้รับการประกันตามมาตรา 33 และ 39
  • หากคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือผู้ได้รับการยกเว้นภายใต้พระราชบัญญัติประกันสังคม
  • คนพิการที่สามารถรับรู้สิทธิของตนในการประกันสังคม

ความคุ้มครองสำหรับผู้เอาประกันสังคมตามมาตรา 40

ในบริบทของ covid-19 มีการประกาศว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ถึงมกราคม 2565 การจ่ายเงิน 60% ของจำนวนเงินปกติจะลดต้นทุนสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40

ผู้เอาประกันสังคมสามารถเลือกเงินสมทบได้ 3 ประเภทที่ต้องชำระเป็นรายเดือน สวัสดิการและการคุ้มครองอื่นๆ

แบบที่ 1 เงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน (ลดเหลือ 42 บาท)

คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองขั้นพื้นฐานในสามกรณี

1. หากคุณอยู่ในภาวะเสี่ยงหรือเจ็บป่วย คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • ผู้ป่วยนอนบนเตียงเกิน 1 วัน คิดค่าบริการวันละ 300 บาท
  • สำหรับผู้ป่วยนอก (ไม่รักษาตัวในโรงพยาบาล) แต่นำใบรับรองแพทย์ อยู่เกิน 3 วัน จ่ายวันละ 200 บาท
  • ***เงื่อนไขการรับสิทธิ์หยุดทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกพร้อมกันภายใน 30 วันต่อปี
  • หากคุณเป็นผู้ป่วยนอก (ไม่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาล) คุณจะได้รับการชดเชยน้อยกว่า 50 บาทต่อชั่วโมง (ปีละ 3 ครั้ง) หากคุณไม่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดการรักษาหรือหากคุณหยุดพักน้อยกว่า 2 วัน

2. หากคุณมีความทุพพลภาพ คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ต่อเดือน 500-1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาสมทบทุนของผู้เอาประกันภัย) เป็นเวลา 15 ปี
  • ได้รับเงินช่วยเหลืองานศพ 25,000 บาท เสียชีวิตขณะทุพพลภาพ

3. กรณีเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายงานศพ มีดังนี้

  • ผู้อำนวยการงานศพได้รับเงินค่าทำศพ 25,000 บาท
  • หากผู้เอาประกันภัยสมทบในช่วง 60 เดือนก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินเพิ่มอีก 8,000 บาท

แบบที่ 2 สมทบ 100 บาทต่อเดือน (ลดเหลือ 60 บาท)

คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองขั้นพื้นฐานในสี่กรณี

1. หากคุณอยู่ในภาวะเสี่ยงหรือเจ็บป่วย คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • ผู้ป่วยนอนบนเตียงเกิน 1 วัน คิดค่าบริการวันละ 300 บาท
  • สำหรับผู้ป่วยนอก (ไม่รักษาตัวในโรงพยาบาล) แต่นำใบรับรองแพทย์ อยู่เกิน 3 วัน จ่ายวันละ 200 บาท
  • ***เงื่อนไขการรับสิทธิ์หยุดทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกพร้อมกันภายใน 30 วันต่อปี
  • หากคุณเป็นผู้ป่วยนอก (ไม่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาล) คุณจะได้รับการชดเชยน้อยกว่า 50 บาทต่อชั่วโมง (ปีละ 3 ครั้ง) หากคุณไม่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดการรักษาหรือหากคุณหยุดพักน้อยกว่า 2 วัน

2. หากคุณมีความทุพพลภาพ คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ต่อเดือน 500-1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาสมทบทุนของผู้เอาประกันภัย) เป็นเวลา 15 ปี
  • ได้รับเงินช่วยเหลืองานศพ 25,000 บาท เสียชีวิตขณะทุพพลภาพ

3. กรณีเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายงานศพ มีดังนี้

  • ผู้อำนวยการงานศพได้รับเงินค่าทำศพ 25,000 บาท
  • หากผู้เอาประกันภัยสมทบในช่วง 60 เดือนก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินเพิ่มอีก 8,000 บาท

4. ดอกเบี้ยผู้สูงอายุคิดดังนี้

  • รับเงินบำเหน็จบำนาญชราภาพ (ออมทรัพย์) พร้อมเงินสมทบเดือนละ 50 บาท (รับเมื่ออายุ 60 ปี และเมื่อสิ้นสุดผู้เอาประกันภัย)
  • ผู้เอาประกันภัยจ่ายเงินออมเพิ่มไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน

แบบที่ 3 ผ่อนเดือนละ 300 บาท (ลดเหลือ 180 บาท)

คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองขั้นพื้นฐานในห้ากรณี

1. หากคุณอยู่ในภาวะเสี่ยงหรือเจ็บป่วย คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • ผู้ป่วยนอนบนเตียงเกิน 1 วัน คิดค่าบริการวันละ 300 บาท
  • สำหรับผู้ป่วยนอก (ไม่รักษาตัวในโรงพยาบาล) แต่นำใบรับรองแพทย์ อยู่เกิน 3 วัน จ่ายวันละ 200 บาท
  • *** เงื่อนไขการรับสิทธิ์อยู่ตัวผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก สูงสุด 90 วันต่อปี

2. หากคุณมีความทุพพลภาพ คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ดังนี้

  • คุณจะได้รับการชดเชยการขาดรายได้ต่อเดือน 500-1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอายุประกัน) ตลอดชีวิต
  • เขาได้รับเงิน 500,000 วอนสำหรับค่าใช้จ่ายงานศพของผู้ตาย

3. กรณีเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายงานศพ มีดังนี้

  • คณะกรรมการฌาปนกิจ รับ 50,000 บาท เป็นค่าทำศพ

4. ดอกเบี้ยผู้สูงอายุคิดดังนี้

  • สร้างบำเหน็จบำนาญชราภาพ (ออมทรัพย์) ด้วยเงินสมทบเดือนละ 150 บาท (จ่ายเมื่ออายุ 60 ปี และเมื่อสิ้นสุดผู้เอาประกันภัย)
  • บริจาค 180 เดือน รับเพิ่มอีก 10,000 บาท
  • ผู้เอาประกันภัยจ่ายเงินออมเพิ่มไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน

5. รับค่าเลี้ยงดู

  • ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบ 24 เดือนจาก 36 เดือนจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ท่านละ 200 บาท (ครั้งละไม่เกิน 2 ท่าน)

มาตรา 40 ประกันสังคม เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการประกันและการคุ้มครองการจ้างงานสำหรับคนงานที่ประกอบอาชีพอิสระ ประกอบอาชีพอิสระและไม่มีประกัน สล็อตเว็บตรง การสมัครและลงทะเบียนความคุ้มครองนี้สามารถให้ความอุ่นใจเมื่อคุณมีบุตร ชราภาพ หรือเจ็บป่วยในกรณีที่เสียชีวิต หลังยังคงมีสิทธิได้รับค่าชดเชย

ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2561 และพระราชกฤษฎีกากำหนดคุณสมบัติของบุคคลซึ่งอาจสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2561

https://www.sso.go.th/wpr/main/service/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1_detail_detail_1_125_698/247_247